การตีความการประกันตัวผู้ขับขี่ ร.ย.03 (เอกสารแนบท้าย ร.ย.03) ซึ่งพบในกรมธรรม์รถยนต์ภาคสมัครใจทุกประเภท

  • เมื่อผู้เอาประกันภัย หรือผู้ขับขี่ได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัย นำรถยนต์คันที่เอาประกันภัยไปใช้ และเกิดอุบัติเหตุขึ้น ทำให้ผู้เอาประกันภัยหรือผู้ขับขี่นั้นถูกควบคุมตัวไว้ในคดีอาญาหากมีการซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมส่วนนี้ไว้แล้ว บริษัทจะต้องดำเนินการประกันตัวผู้เอาประกันภัย หรือผู้ขับขี่นั้น โดยยื่นหลักประกัน เช่น เงินสด หรือหลักทรัพย์อื่น ตามจำนวนที่พนักงานสอบสวนพนักงานอัยการ หรือศาลกำหนด (แต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยตามที่กำหนดไว้ในเอกสารแนบท้ายนี้) ทั้งนี้เพื่อที่พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือศาลจะได้พิจารณาปล่อยตัวบุคคลดังกล่าวเป็นการชั่วคราว
  • แม้ความเสียหาย หรือความรับผิดที่เกิดจากอุบัติเหตุนั้น จะไม่ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์หลักก็ตาม (เว้นแต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นผลโดยตรง หรือโดยอ้อมจากมหันตภัย) ก็ไม่กระทบถึงความรับผิดของบริษัทที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาที่ปรากฏในเอกสารแนบท้ายนี้ กล่าวคือ บริษัทยังคงมีหน้าที่ผูกพันที่จะต้องดำเนินการประกันตัวบุคคลดังกล่าวนั้นการที่บริษัททำการประกันตัวผู้เอาประกันภัย หรือผู้ขับขี่ ในชั้นพนักงานสอบสวนจนกระทั่งพ้นอำนาจของพนักงานสอบสวน ไปอยู่ในอำนาจของพนักงานอัยการ โดยที่ไม่มีการผิดสัญญาประกันแล้ว บริษัทมีสิทธิที่จะรับเงินหรือหลักทรัพย์ที่ตนนำไปวางคืนจากพนักงานสอบสวนนั้นได้ ฉะนั้นความรับผิดของบริษัทที่จะต้องทำการประกันตัวผู้เอาประกันภัย หรือผู้ขับขี่นั้น ในชั้นของพนักงานอัยการ จึงยังคงมีอยู่เต็มวงเงินเอาประกันภัย ในกรณีที่ไปอยู่ในอำนาจของศาล หรือศาลสูงก็เช่นเดียวกัน
  • แต่หากผู้เอาประกันภัยหรือผู้ขับขี่หลบหนีระหว่างการประกันตัว เป็นเหตุให้บริษัทต้องรับผิดชอบ ชดใช้เงินตามจำนวนที่กำหนดไว้ในสัญญาประกันแล้ว จำนวนเงินที่บริษัทได้ชดใช้ไปให้แก่พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือศาลนั้น บริษัทจะมาเรียกคืนจากผู้เอาประกันภัยไม่ได้ และหากต่อมาหลังผู้เอาประกันภัยหรือผู้ขับขี่นั้นถูกจับกุมตัว บริษัทก็ไม่มีหน้าที่หรือความรับผิดที่จะต้องประกันตัวบุคคลผู้นั้นอีกไม่ว่าในชั้นใด ๆ แม้จำนวนเงินที่บริษัทต้องชดใช้ในฐานที่ผิดสัญญาประกันภัยจะยังไม่เต็มวงเงินเอาประกันภัยสำหรับอุบัติเหตุแต่ละครั้งก็ตาม
  • อย่างไรก็ตาม หากเป็นอุบัติเหตุครั้งอื่น แม้จะเป็นผู้เอาประกันภัยหรือผู้ขับขี่คนเดียวกับที่เคยหลบหนีจนเป็นเหตุให้บริษัทต้องรับผิดในฐานที่ผิดสัญญาประกันก็ตาม บริษัทก็ยังคงมีหน้าที่ประกันตัวผู้เอาประกันภัยหรือผู้ขับขี่นั้น ทั้งนี้ เนื่องจากจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุในตาราง เป็นจำนวนเงินเอาประกันภัยต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง
  • ในกรณีบริษัทได้นำเงินสด หรือหลักทรัพย์ไปวางเพื่อประกันตัวผู้ขับขี่ไว้แล้ว แต่ต่อมาปรากฏว่าจำนวนเงินหรือหลักทรัพย์ที่วางไว้นั้นต่ำไป พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือศาล จึงเรียกให้วางจำนวนเงิน หรือหลักทรัพย์เพิ่ม หากจำนวนเงินหรือหลักทรัพย์ที่วางเพิ่ม เมื่อรวมกับที่วางไว้เดิม ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้งแล้ว บริษัทก็ยังคงมีหน้าที่วางจำนวนเงินหรือลักทรัพย์ให้ครบตามที่พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือศาลเรียกเพิ่ม
  • ในปัจจุบันบริษัทอาจใช้หนังสือรับรองฯ ประกันตัวผู้ต้องหา หรือจำเลย แทนการใช้หลักทรัพย์ได้เช่นเดียวกับการประกันภัยอิสรภาพ ตามที่พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ ศาลอนุญาต แต่เมื่อใดก็ตามที่พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือศาล ไม่อนุญาตให้ใช้เอกสารดังกล่าว บริษัทก็ยังคงต้องมีหน้าที่นำหลักทรัพย์อื่นไปประกันตัวผู้ต้องหา หรือจำเลย ตามข้อสัญญาที่ระบุไว้