ตามความคุ้มครอง หมวดเงื่อนไขทั่วไป ข้อ การโอนรถยนต์

เมื่อผู้เอาประกันภัยรถยนต์ได้โอนรถยนต์ให้แก่บุคคลอื่น ให้ถือว่าผู้รับโอนเป็นผู้เอาประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยนี้ และบริษัทต้องรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยต่อไปตลอดอายุกรมธรรม์ประกันภัยที่ยังเหลืออยู่

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ทำประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ ผู้เอาประกันภัยจะต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงผู้ขับขี่ให้บริษัททราบ เพื่อจะได้มีการปรับปรุงอัตราเบี้ยประกันภัยตามสภาพความเสี่ยงภัยที่เปลี่ยนแปลงไป มิฉะนั้นผู้เอาประกันภัยอาจจะต้องรับผิดชอบในความเสียหายส่วนแรกเอง ตามเงื่อนไขความคุ้มครองที่ปรากฏในกรมธรรม์ประกันภัยนี้

ตีความได้ว่า..

การกำหนดเงื่อนไขนี้ขึ้น เพื่อเป็นการยืนยันว่า กรมธรรม์จะไม่สิ้นผลบังคับ เพราะเหตุที่มีการโอนรถยนต์ไปให้บุคคลอื่น โดยมิได้แจ้งการโอนให้บริษัททราบ ทั้งนี้ เนื่องจากโดยปกติเพียงแต่ผู้เอาประกันภัยรถยนต์เดิม หรือผู้รับโอนแจ้งการโอนให้บริษัททราบ บริษัทก็มักจะให้ความคุ้มครองตามกรมธรรม์ดังกล่าวดำเนินต่อไป ตามระยะเวลาเอาประกันภัยที่เหลืออยู่ โดยบริษัทเพียงแต่ออกใบสลักหลังเปลี่ยนชื่อผู้เอาประกันภัยเท่านั้น เงื่อนไขข้อนี้ จึงกำหนดให้สิทธิตามกรมธรรม์ติดตามไปกับตัวรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครอง หรือการโอนใด ๆ ก็ไม่ทำให้สัญญาประกันภัยตามกรมธรรม์นี้สิ้นผลบังคับ แต่ให้ถือว่าผู้รับโอนเป็นผู้เอาประกันภัยตามกรมธรรม์นี้แต่กรมธรรม์ดังกล่าวกำหนดเพียงให้สิทธิตามกรมธรรม์ติดตามไปกับตัวรถยนต์ ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้เอาประกันภัยเดิม ซึ่งเป็นผู้ชำระเบี้ยประกันภัยเป็นสำคัญว่า ตนประสงค์จะให้สิทธิตามกรมธรรม์โอนตามหรือไม่ ก็ให้เป็นไปตามความประสงค์ของผู้เอาประกันภัยรถยนต์นั้นครับ

การที่ผู้เอาประกันภัยได้โอนรถยนต์ไปให้บุคคลอื่น โดยข้อตกลงในการโอนนั้น แม้จะมิได้กล่าวถึงและมิได้มีการส่งมอบกรมธรรม์ให้แก่ผู้รับโอนก็ตาม ก็ต้องถือว่าผู้รับโอนเป็นผู้เอาประกันภัยตามกรมธรรม์นี้แล้วแม้ผู้เอาประกันภัยเดิมได้แสดงเจตนาโดยชัดแจ้งว่า ไม่ประสงค์จะให้สิทธิกรมธรรม์ประกันภัยนี้โอนไปยังผู้รับโอน ทั้งมิได้มีการส่งมอบกรมธรรม์ให้แก่ผู้รับโอน แต่ตราบใดที่ผู้เอาประกันภัยเดิมยังมิได้ใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ และระหว่างนั้นหากรถยนต์คันดังกล่าวไปประสบอุบัติเหตุ ความรับผิดหรือความเสียหายที่เกิดขึ้น ก็ยังคงได้รับความคุ้มครองต่อไป จนกว่าการบอกเลิกจะมีผลบังคับ (การบอกเลิกไม่มีผลกระทบถึงสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ที่เกิดขึ้นก่อนกรมธรรม์สิ้นผลบังคับ)

แม้โดยผลของเงื่อนไขตามวรรคแรกที่กำหนดให้ผู้รับโอนเป็นผู้เอาประกันภัย และให้กรมธรรม์ยังคงมีผลบังคับต่อไปตลอดระยะเวลาประกันภัยที่เหลือก็ตาม แต่หากเป็นกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเดิมได้ทำประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ไว้ ดังนั้น เมื่อมีการโอนให้แก่บุคคลอื่นไปแล้วผู้ที่จะมาใช้หรือขับขี่รถยนต์ย่อมต้องเปลี่ยนแปลงไป ในวรรคสองจึงมีการกำหนดหน้าที่ของผู้รับโอน ซึ่งถือว่าเป็นผู้เอาประกันภัยคนใหม่ไว้ว่า ให้ผู้เอาประกันภัยคนใหม่นั้นจะต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงผู้ขับขี่ให้บริษัททราบด้วย ทั้งนี้ เพื่อว่าบริษัทจะได้มีการปรับปรุงเบี้ยประกันภัยใหม่ให้ถูกต้องตามสภาพความเสี่ยงภัยที่เปลี่ยนแปลงไป โดยการปรับปรุงเบี้ยประกันภัยจะต้องเริ่ม ณ วันที่ที่บริษัทได้รับแจ้งการเปลี่ยนแปลงโดยคิดอัตราเบี้ยประกันภัยเฉลี่ยรายวัน ในการนี้ ผู้เอาประกันภัยคนใหม่อาจจะต้องชำระเบี้ยประกันภัยเพิ่มเติม หรืออาจได้รับการคืนเบี้ยประกันภัยบางส่วนก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ขับขี่ที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น เป็นผู้ขับขี่ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงภัยสูง หรือต่ำกว่าผู้ขับขี่คนเดิม

การแจ้งการเปลี่ยนแปลงผู้ขับขี่ในที่นี้ ให้รวมถึงการเปลี่ยนประเภทการประกันภัยจากการประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ ไปเป็นการประกันภัยประเภทไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ หรือจากไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่เป็นระบุชื่อผู้ขับขี่ด้วยในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเดิมได้ทำประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ไว้ และต่อมามีการโอนรถยนต์เกิดขึ้น แม้ผู้รับโอนซึ่งถือเป็นผู้เอาประกันภัยคนใหม่ จะไม่มีการแจ้งการเปลี่ยนแปลงผู้ขับขี่ก็ตามก็ไม่ทำให้ความสมบูรณ์ของสัญญาประกันภัยเสียไป กรมธรรม์ยังคงสมบูรณ์ผูกพันคู่สัญญา เพียงแต่ว่า เมื่อมีความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก หรือความเสียหายต่อรถยนต์เกิดขึ้น ในขณะที่มีบุคคลอื่นซึ่งมิใช่ผู้ขับขี่ที่ระบุไว้เดิมเป็นผู้ขับขี่แล้ว ผู้เอาประกันภัยคนใหม่นั้นจะต้องเข้ามาร่วมรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรกเองเป็นจำนวนใดจำนวนหนึ่งหรือทั้งสองจำนวนแล้วแต่กรณี ดังนี้
– 2,000 บาท สำหรับความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก (ตามเงื่อนไขข้อ 2 (ค) ของหมวดการคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก)
– 6,000 บาท ของความเสียหายต่อรถยนต์ที่เกิดจากการชน หรือการคว่ำ (ตามเงื่อนไขข้อ 4 (ค) ของหมวดการคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์)

เป็นไงกันบ้างครับ ทั้งหมดนี้คือความรู้เบื้องต้นที่เราเอามาฝากให้เข้าใจง่ายๆ และถ้าหากกำลังมองหาการทำประกันรถยนต์ แต่ไม่รู้จะเลือกแบบไหนดี ก็สามารถปรึกษา ลองเปรียบเทียบและเช็คข้อมูลการทำประกันรถยนต์ได้ง่ายๆ ที่ www.mongkol.co.th หรือโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 027599400 ครับ