ผู้รับประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันรถยนต์ 
หมายถึง ผู้รับประโยชน์ในกรณีที่รถยนต์สูญหาย หรือรถยนต์เสียหายสิ้นเชิงจนไม่สามารถซ่อมแซมได้เท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับผู้รับประโยชน์ตามเอกสารแนบท้าย การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลแต่อย่างใด
การชดใช้กรณีที่รถยนต์สูญหาย หรือรถยนต์เสียหายสิ้นเชิง บริษัทก็จะต้องชดใช้จำนวนเงินเอาประกันภัยให้แก่ผู้รับประโยชน์นั้นตามส่วนได้เสียก่อน ส่วนที่เหลือจึงเป็นของผู้เอาประกัน

ผู้รับประโยชน์สำหรับประกันรถยนต์
คือ บริษัทไฟแนนซ์ ในกรณีที่รถยังผ่อนชำระอยู่ หากรถสูญหาย หรือ เสียหายสิ้นเชิง บริษัทไฟแนนซ์จะได้รับค่าสินไหมก่อน ส่วนที่เหลือ ถ้ามี จึงจ่ายให้ผู้เอาประกัน

รถติดไฟแนนซ์แต่ไม่อยากให้ระบุผู้รับประโยชน์ในกรมธรรม์ ?

  • กรณีเคลมประกันในหมวดรถยนต์สูญหาย หรือรถยนต์เสียหายสิ้นเชิง ประกันย่อมเรียกเอกสารประกอบ โดยเฉพาะรายการจดทะเบียนรถ ซึ่งหากตอนทำประกันไว้ไม่ได้ระบุ แต่เอกสารที่ใช้ประกอบการเคลม ในรายการจดทะเบียนรถแสดงให้เห็นว่าเจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่ใช่ผู้เอาประกัน เช่นยังติดไฟแนนซ์อยู่ ก็ต้องมีการจ่ายสินไหมตามส่วนได้เสียก่อนคือ จ่ายหนี้ที่ผู้เอาประกันยังค้างไฟแนนซ์ก่อน ส่วนที่เหลือจึงเป็นของผู้เอาประกัน
  • ในทางตรงกันข้าม รถผ่อนหมดแล้ว แต่ไม่ได้แจ้งเอาผู้รับประโยชน์ออกจากกรมธรรม์ เมื่อถึงเวลาเคลม รายการจดทะเบียนรถ หรือเล่มทะเบียนรถพบว่าผู้เอาประกันเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ประกันก็จะต้องจ่ายสินไหมแก่ผู้เอาประกัน

หากรถผ่อนหมดแล้ว ในช่องผู้รับประโยชน์ต้องระบุชื่อหรือเว้นว่างไว้ ? 
การระบุชื่อผู้รับประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันรถยนต์ มีไว้สำหรับกรณีรถยนต์เสียหายทั้งคันหรือสูญหาย ซึ่งบริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามทุนประกันภัยให้ผู้รับประโยชน์ก่อนตามจำนวนหนี้ที่ผู้เอาประกันมีต่อผู้รับประโยชน์ ส่วนที่เหลือบริษัทประกันภัยจึงจะจ่ายให้แก่ผู้เอาประกันภัย ซึ่งหากผู้เอาประกันภัยเป็นคนเดียวกันกับผู้รับประโยชน์ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องระบุชื่อของผู้รับประโยชน์ (เว้นว่างไว้)