เพื่อนๆ หลายคนที่ใช้รถ และหากเคยประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชน ย่อมรู้สึกหงุดหงิดแถมยังต้องเสียเวลาจากการที่ต้องนำรถเข้าซ่อม แต่อย่างไรก็ตามในกรณีที่คุณฝ่ายถูกชน และมีการพิสูจน์มาแล้วว่าคุณไม่ใช่คนผิด คุณสามารถเรียกร้อง “ค่าขาดผลประโยชน์” ระหว่างที่นำรถเข้าซ่อมจากบริษัทประกันคู่กรณีได้ ไม่ว่าจะเป็นค่าการเดินทาง ค่าขาดประโยขน์จากการใช้รถ ซึ่งจะมีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง เราไปดูกันเลยค่ะ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้กำหนดวงเงิน “ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ” ไว้บนกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ เพื่อให้บริษัทประกันภัยจ่ายให้กับผู้เสียหาย จากกรณีที่ถูกรถที่มีประกันภัยชน เป็นต้นค่ะ 

ซึ่งมีข้อกำหนดอัตราค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถมี 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่…

1.รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง กำหนดอัตราค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถไม่น้อยกว่าวันละ 500 บาท

2. รถยนต์รับจ้างสาธารณะขนาดไม่เกิน 7 ที่นั่ง กำหนดอัตราค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถไม่น้อยกว่าวันละ 700 บาท

3. รถยนต์ที่มีที่นั่งเกิน 7 ที่นั่ง กำหนดอัตราค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถไม่น้อยกว่าวันละ 1,000 บาท

สำหรับเอกสารที่ต้องเตรียม เพื่อใช้สำหรับใช้ทำเรื่องขอค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถ มีดังนี้ค่ะ

  • ใบเสนอรายการความเสียหายของรถยนต์ โดยต้องระบุวันที่เราติดต่อซ่อมรถกับอู่ซ่อมรถ หรือศูนย์บริการให้ชัดเจน
  • ใบเคลม (ใบรับรองความเสียหายต่อทรัพย์สิน) โดยเราจะได้รับใบเคลมจากเจ้าหน้าที่เคลมประกัน ซึ่งจะออกให้เราเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งจะมีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่ารถเสียหายตรงไหนบ้าง และเราต้องเป็นฝ่ายถูก
  • เล่มคู่มือจดทะเบียนรถ หรือสำเนา (ที่ระบุวันจดทะเบียน ผู้ถือกรรมสิทธิ์ และชื่อเจ้าของรถ)
  • สำเนาใบขับขี่รถยนต์ ต้องเซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้องด้วย
  • สำเนาตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ซึ่งจะต้องเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องกำกับไว้ด้วย
  • ใบรับรถ หรือหนังสือส่งมอบรถ โดยจะต้องระบุวันที่รับรถ และวันซ่อมรถเสร็จไว้อย่างชัดเจน
  • หนังสือเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถ (ดาวน์โหลด)

สุดท้ายอย่าลืมเพิ่มความอุ่นใจด้วยการซื้อประกันรถกับ INSUREFRIEND ที่ใส่ใจ และพร้อมดูแลคุณตลอดทุกการเดินทางนะคะ